Bye Bye Fat ลดไขมัน ลดน้ำหนักที่เกินเกณฑ์
ทุกคนมีความต้องการให้ตัวเองดูดี และการมีรูปร่างที่ดีก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเราได้ ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย หลายคนจึงหันมาใส่ใจเรื่องรูปร่างมากขึ้น แต่บางคนก็ใส่ใจมากเกินจนกลายเป็นความกังวลเรื่องรูปร่าง กลัวอ้วนบ้าง กลัวตัวใหญ่บ้าง ทั้งๆ ที่จริงแล้วคุณอาจจะมีรูปร่างที่ดูดีมากในสายตาคนอื่น ดังนั้น การจะตัดสินว่าตัวเองอ้วน คุณต้องเข้าใจก่อนว่าเกณฑ์การตัดสินความอ้วนตามมาตรฐานคืออะไร?
แบบไหนถึงเรียกว่า “อ้วน”
โดยมาตรฐานระดับสากลแล้ว ค่าดัชนีมวลกาย Body Mass Index หรือเรียกสั้นๆ ว่า BMI คือตัวชี้วัดมาตรฐานเพื่อประเมินสภาวะของร่างกายว่า มีความสมดุลของน้ำหนักตัวต่อส่วนสูงอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมหรือไม่ โดยองค์การอนามัยโลกได้กำหนดไว้ว่า ดัชนีมวลกายของคนปกติควรมีค่าอยู่ระหว่าง 18.5-24.9 และถ้ามากกว่า 25 ขึ้นไป เรียกว่า “น้ำหนักตัวเกิน” และแม้จะไม่ถึงเกณฑ์ที่ถือว่าอ้วนมาก ๆ แต่ก็มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่มากับความอ้วนได้ แต่ถ้ามากกว่า 30 ขึ้นไป จัดว่ามีภาวะอ้วน และจะจัดว่าเป็น “โรคอ้วน” โดยค่า BMI นี้จะเป็นมาตรฐานที่ใช้วัดได้กับคนที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไปเท่านั้น และสำหรับบุคคลบางกลุ่มก็ไม่สามารถวัดได้ เช่น นักเพาะกาย สตรีมีครรภ์ และเด็กวัยกำลังเจริญเติบโต เป็นต้น ซึ่งหากคุณเป็นบุคคลทั่วไปที่มีอายุเกิน 20 ปีแล้ว และกำลังกังวลเรื่องความอ้วน การวัดค่า BMI ง่ายๆ ก็คือ นำน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) หารด้วย ส่วนสูง (เมตร) ยกกำลังสอง และถ้าอยากคำนวณง่ายกว่านั้นก็ Search ทาง Google ได้เลย
นอกจากค่า BMI แล้ว คุณยังสามารถวัดความอ้วนได้ด้วยการวัดเส้นรอบเอวและสะโพก โดยวัดที่ระดับจุดกึ่งกลางระหว่างใต้ชายโครงและเหนือกระดูกสะโพก สำหรับผู้ชาย ถ้าเส้นรอบเอวมากกว่า 36 นิ้ว (90ซม.) ถือว่าอ้วนลงพุง และผู้หญิง ถ้าเส้นรอบเอวมากกว่า 32 นิ้ว (80 ซม.) ถือว่าอ้วนลงพุง
สาเหตุที่ส่งผลให้ค่า BMI เกินจนกลายเป็นคนอ้วน
หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้บุคคลนั้นมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานก็คือ พันธุกรรม ซึ่งจากการศึกษาพบว่า 80% ของคนที่มีอ้วน จะมีพ่อและแม่ที่อ้วน แต่หากพ่อหรือแม่ แค่คนใดคนหนึ่งอ้วน โอกาสที่ลูกจะอ้วนก็ลดลงเหลือเพียง 40% แต่อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ทำให้คนส่วนใหญ่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐานนั้น ไม่ใช่เพราะกรรมพันธุ์ แต่มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันต่างหาก โดยส่วนใหญ่พบว่า พฤติกรรมเหล่านี้คือปัจจัยที่ส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นจนทะลุเกณฑ์มาตรฐาน BMI
-
การกินอาหาร
การกินอาหารที่มีพลังงานสูงมากเกินไป โดยเฉพาะแป้ง น้ำตาล ไขมัน โดยบางคนมีพฤติกรรมการบริโภคอาหารตลอดเวลา เช่น กินมื้อเช้าจบ ตบด้วยของหวาน ตามด้วยกาแฟใส่น้ำตาล กลางวันก็จัดเต็มเมนูของทอดแสนอร่อย บ่ายๆ แก้ง่วงหน่อยด้วยชานมไข่มุก เย็นปุ๊บนัดปาร์ตี้กับเพื่อน แต่พอกลับดึกก็ท้องร้องเฉย ก็เลยกินก่อนนอนอีกหน่อยให้หลับสบาย เป็นต้น ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้อาจเริ่มจาก 1 วันต่อสัปดาห์ แล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้น จนเคยชินทำเป็นประจำ จนทำให้พลังงานที่ร่างกายค่อยๆ สะสมทุกวัน แสดงผลออกมาทางตราชั่งที่ตัวเลขน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
-
การไม่ค่อยขยับร่างกาย
เนื่องด้วยการใช้ชีวิตในทุกวันนี้ที่มีการบริการที่มาอำนวยความสะดวกสบายให้เราทุกอย่างจนแทบไม่ต้องขยับร่างกายอะไรมากมาย จะกินข้าวก็แค่สั่ง Delivery จะออกไปข้างนอกก็ใช้วินมอเตอร์ไซค์ จะขึ้นอาคารก็มีลิฟท์ให้แม้ตึกจะไม่สูง รวมถึงการทำงานที่ส่วนใหญ่จะนั่งอยู่กับที่ ติดอยู่กับจอ ส่งผลให้แต่ละวันเราไม่ได้ขยับร่างกายมากเท่าที่ควร นอกจากนี้แล้วยังขาดการออกกำลังกายเป็นประจำอีกด้วย ทำให้ร่างกายไม่ได้เกิดการเผาผลาญที่พอดีกับการกิน จึงทำให้น้ำหนักตัวเกินและเกิดภาวะอ้วนได้
-
ปัจจัยอื่นๆ
นอกจากปัจจัยในเรื่องของพฤติกรรมการกินและขาดการออกกำลังกายแล้ว ยังมีปัจจัยในด้านอื่นที่ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคประจำตัวบางชนิด เช่น ไทรอยด์ โรคที่เกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมน เป็นต้น รวมถึงการทานยาที่ส่งผลให้มีความอยากอาหารเพิ่ม เช่น ยาคุมกำเนิด ยาแก้โรคซึมเศร้า เป็นต้น
ผลเสียของการตกอยู่ในภาวะอ้วน
นอกจากความอ้วนจะส่งผลในเรื่องของรูปร่างจากที่เคยเพรียวบางก็หนาเตอะขึ้นมาทำให้ส่งผลต่อความมั่นใจในความดูดีแล้ว ยังส่งในเรื่องของบุคลิกภาพที่เป็นผลมาจากการขาดความมั่นใจ ไปจนถึงเรื่องของการเคลื่อนไหวที่ไม่กระฉับกระเฉงเหมือนเคย และมากกว่าไปนั้น ภาวะน้ำหนักเกินเกณฑ์ ความอ้วน จะส่งผลโดยตรงด้านสุขภาพที่มักจะเสี่ยงให้เกิดโรคเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น ได้แก่
- โรคไขมันในเลือดสูง เกิดจากการที่ร่างกายมีไขมันมากเกินไป อาจทำให้ไขมันในเลือดเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงต่อการเป็นไขมันอุดตันเส้นเลือด และนำไปสู่การเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบและโรคหัวใจ
- โรคความดันโลหิตสูง ซึ่งคนที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์และภาวะอ้วนจะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคนี้มากกว่าคนที่มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติ
- โรคเบาหวาน ส่วนหนึ่งเกิดจากการทานน้ำตาลหรือของหวานมากเกินไป และผลจากความอ้วนที่ทำให้อินซูลินมีประสิทธิภาพในการทำงานลดลง จึงทำให้เกิดโรคเบาหวานได้นั่นเอง
- โรคข้อกระดูกเสื่อม มาจากการมีน้ำหนักตัวที่มากเกินไป และร่างกายต้องรับน้ำหนักตัวที่มากเกินไปอยู่เสมอ จึงอาจทำให้ข้อกระดูกเกิดการเสื่อมสภาพได้
- โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ คนที่อ้วนมากๆ จะเสี่ยงให้เกิดการหายใจลำบาก อาจทำให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้
ลดความเสี่ยงร้ายๆ ด้วยการใส่ใจเรื่องลดน้ำหนัก
ลดน้ำหนักในวันนี้ เท่ากับลดความเสี่ยงโรคในวันหน้า นั่นหมายความว่าเรากำลังทำเพื่อสุขภาพในอนาคต ดังนั้น เราจึงต้องมามองการลดน้ำหนักในรูปแบบใหม่ เพราะน้ำหนักในร่างกายมันรวมไปถึงมวลกระดูก อวัยวะภายใน น้ำในร่างกาย กล้ามเนื้อ ไขมัน และอื่นๆ อีก ซึ่งถ้าหากคุณอยากลดสัดส่วนอย่างมีคุณภาพ เราจะต้องมองกลับไปที่สาเหตุของการมีน้ำหนักเกินเกณฑ์นั้นมาจากอะไร? ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการที่ร่างกายมีพลังงานสะสมมากเกินไป และไม่ได้รับการเผาผลาญออก และพลังงานนั้นคือแป้ง น้ำตาล และไขมัน ที่มันได้เปลี่ยนรูปไปเป็นไขมัน สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย นี่คือสาเหตุทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น และร่างกายขยายใหญ่ขึ้นนั่นเอง ดังนั้น แนวทางการลดน้ำหนักให้ได้คุณภาพคือการลดไขมันที่สะสมมากเกินในร่างกาย รวมถึงไม่เพิ่มปริมาณพลังงานในแต่ละวันให้มากเกินไป ควบคุมอาหารให้อยู่ในความพอดี เพียงเท่านี้ แต่ทำเป็นประจำก็จะทำให้การลดไขมันของคุณสามารถสร้างผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงของรูปร่างและทำให้ลดสัดส่วนได้อย่างดีแน่นอน
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ลดไขมัน รูปร่างดี สุขภาพดี
หลักการลดสัดส่วนที่ถูกต้องคือ การลดน้ำหนักและการลดไขมันอย่างถูกวิธีจะช่วยให้คุณมีรูปร่างที่ดูดี ดูกระชับ โดยการลดไขมันนั้นคุณอาจต้องทำใจของข้ามตัวเลขบนตราชั่ง เพราะมันไม่สามารถบอกได้ว่า น้ำหนักที่คุณลดไปนั้น แท้จริงคือไขมัน หรือกล้ามเนื้อ หรือน้ำในร่างกายกันแน่ ดังนั้น สิ่งที่พอจะบอกได้ว่า ไขมันในร่างกายลดลงไปหรือไม่ ส่วนใหญ่จะนิยมการวัดความหนาของชั้นผิวหนัง (skinfold thickness) ด้วยเครื่องวัดเส้นผ่านศูนย์กลาง (Calipers) หรืออาจใช้เครื่องชั่งระบบ BIA ที่สามารถบอกน้ำหนักทั้งหมด สัดส่วน ปริมาณไขมัน มวลกล้ามเนื้อ ปริมาณน้ำ และมวลกระดูก โดยหลักการการลดไขมันให้เห็นผลนั้น จะมีดังต่อไปนี้
-
ลดไขมัน ด้วยการจำกัดการรับพลังงานเข้าร่างกาย
จะลดไขมันที่สะสมในร่างกายออกได้ต้องอาศัยการเผาผลาญทิ้ง ซึ่งร่างกายในแต่ละวันมีความสามารถในการเผาผลาญพลังงานอยู่แล้ว แต่เราต้องประเมินด้วยว่า ในแต่ละวันเรามีส่วนช่วยร่างกายในการเผาผลาญเพิ่มเติมหรือไม่ เพราะปกติแล้วร่างกายจะเผาผลาญพลังงานที่เพิ่งได้รับเข้ามาก่อน และหากเบิร์นหมดแล้วจึงจะไปดึงพลังงานที่สะสมไว้มาเผาผลาญเพิ่ม ดังนั้น การควบคุมการนำเข้าของพลังงานไม่ให้มากเกินความสามารถในการเผาผลาญแต่ละวัน และหมั่นขยันขยับร่างกาย เพื่อช่วยให้เกิดการเผาผลาญร่วมด้วย ก็จะช่วยในการลดไขมันสะสมได้ และที่สำคัญ การควบคุมอาหารอย่างเหมาะสมจะช่วยในเรื่องการดูแลสุขภาพระยะยาว รูปร่างดีแล้ว ต้องสุขภาพดีด้วย
-
ลดไขมัน ด้วยการออกกำลังกาย
การออกกำลังควรทำควบคู่กับการควบคุมอาหาร เพราะจะช่วยให้ผลลัพธ์ชัดเจนขึ้น โดยการออกกำลังจะมีทั้งรูปแบบ Cardio ที่เมื่อทำติดต่อไปกันในระยะเวลาหนึ่ง ร่ายกายจะดึงพลังงานออกมาใช้ โดยส่วนใหญ่จะแนะนำที่ 30 นาทีต่อวัน 5 วัน/สัปดาห์ นอกจากนี้ยังมีการออกกำลังกายแบบ Weight Training เพื่อช่วยเพิ่มปริมาณมวลกล้ามเนื้อ เมื่อเรามีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นก็จะช่วยในการเผาผลาญพลังงานในระหว่างวันได้มากขึ้นนั่นเอง
-
ลดไขมัน ด้วยการลดความเครียด
สำหรับบางคน เมื่อเครียดแล้วมักจะใช้วิธีผ่อนคลายด้วยการทานของหวาน ซึ่งแน่นอนว่าหากเครียดบ่อย ก็จะกินบ่อย จนติดเป็นนิสัย และสะสมไขมันเพิ่มทุกๆ วันโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น พยายามหลีกเลี่ยงความเครียด เพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มปริมาณพลังงานเข้าสู่ร่างกาย
อย่างไรก็ตาม วิธีเหล่านี้เป็นหลักการพื้นฐานที่ทุกคนสามารถทำได้อย่างปลอดภัย โดยที่ควรมีการประเมินตัวเองสม่ำเสมอว่าเหมาะสมกับตัวเองหรือไม่ ออกกำลังกายหนักเกินไปหรือเปล่า กินน้อยเกินไปหรือไม่ เพราะแม้จะเป็นหลักการที่ปลอดภัย แต่หากคุณหักโหมที่จะลดน้ำหนัก ลดไขมันมากเกินไป ก็สามารถส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน อย่าลืมเป้าหมายในระยะยาวว่าการเรากำลังลดน้ำหนักที่เกินเกณฑ์ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรค และเน้นไปที่แนวทางการลดไขมัน เพื่อการมีรูปร่างที่ดูดีกระชับ และไม่กลับไปอ้วนได้ง่ายๆ แถมปลอดภัย สร้างสุขภาพที่ดีให้ตัวเองได้ในระยะยาว
Bye Bye Fat ตัวช่วยลดไขมัน จัดการไขมันสะสมที่ลดได้ยาก
มันจะมีช่วงเวลาหนึ่งที่เราจะเริ่มท้อแท้กับการควบคุมอาหาร และออกกำลังกาย เพราะรู้สึกว่าทำเท่าไหร่ก็ไม่สามารถลดลงมากกว่านี้ได้แล้ว จนเริ่มถอดใจล้มเลิกไปกลางคัน เพราะการลดไขมันบางส่วนมันลดได้ยากจริงๆ เช่น แขน ขา หน้าท้อง เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม แม้วิธีทางธรรมชาติจะทำให้เห็นได้ช้า คุณก็ยังสามารถมองหาวิธีที่ยังให้ความปลอดภัย แต่สามารถกระตุ้นการลดไขมันเพิ่มเติมได้ ด้วยทางเลือกทางการแพทย์อย่างโปรแกรมเฉพาะทาง Bye Bye Fat ของ Doctorlife ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยในการลดไขมันให้กับบุคคลที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์มาก และลดได้ยากด้วยปัจจัยทางร่างกาย โดย Bye Bye Fat สามารถช่วยกระตุ้นการลดไขมันได้โดยไม่สร้างความเสี่ยงให้กับร่างกาย แต่ช่วยลดไขมันที่จับตัวเป็นก้อนใหญ่ให้มีขนาดเล็กลง เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการลดไขมันให้ร่างกายได้ดียิ่งขึ้น
Bye Bye Fat โปรแกรมลดไขมันเทคนิคเฉพาะ ลดไขมัน ลดเซลลูไลท์ ลดรูปร่างได้อย่างเห็นผล
Bye Bye Fat โปรแกรมลดไขมันเทคนิคเฉพาะ ที่ออกแบบมาเพื่อลดไขมันที่ลดได้ยาก ด้วยการทำให้ไขมันขนาดใหญ่ที่สะสมใต้ผิวหนังนั้นเกิดการแตกตัวให้เป็นไขมันขนาดเล็ก เพื่อให้เกิดการเผาผลาญได้ง่ายขึ้น โดยโปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat จัดเป็นการทำทรีทเม้นท์ที่มีความปลอดภัยต่อร่างกายสูง สามารถลดไขมันได้พร้อมกับการทำให้สัดส่วนกระชับ ด้วยวิธีการนวดสลายไขมันโดยใช้นวัตกรรม Circular Motion Massage ที่เข้าไปเร่งการแตกตัวของไขมันโดยตรง ลดไขมันที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่ให้เล็กลง นอกจากนี้โปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat ยังช่วยกระตุ้นการเผาผลาญของร่างกาย ช่วยลดการบวมน้ำ พร้อมให้ผลลัพธ์รูปร่างกระชับขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ซึ่งโปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat นี้เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์มากกว่า 5 กิโลกรัมขึ้นไป เพราะสามารถช่วยลดไขมันขนาดใหญ่ที่ยากต่อการลดได้เป็นอย่างดี โดยที่ไม่กระทบต่อสุขภาพใดๆ ของร่างกาย ไม่มีผลข้างเคียง ไม่เสี่ยงให้เกิดอาการบาดเจ็บแม้แต่น้อย
Bye Bye Fat ช่วยลดไขมันอย่างปลอดภัย ด้วยการใช้คุณสมบัติทางธรรมชาติ
โปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat นี้ ใช้กระบวนการนวดผ่านเครื่อง Circular Motion Massage ที่มีความสามารถในการนวดกระตุ้นการทำงานของร่างกายให้ระบบภายใต้ผิวหนังได้มีการไหลเวียนในทิศทางที่ดีขึ้น นอกจากนี้โปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat ยังมีการใช้เซลลูไลท์ครีมร่วมด้วย ซึ่งเป็นครีมเอกสิทธิ์เฉพาะของทาง Doctorlife ที่คัดสรรส่วนผสมทางธรรมชาติ ให้คุณสมบัติเร่งการเผาผลาญไขมันส่วนเกิน ยับยั้งการสะสมไขมันใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกยังนี้ยังช่วยปรับสมดุลการไหลเวียนโลหิต ฟื้นฟูสภาพผิวที่เริ่มหย่อนคล้อยให้ตึงกระชับขึ้นในคราวเดียว โดยการผสมผสานการทำงานของนวัตกรรม Circular Motion Massage และเซลลูไลท์ครีมสูตรเฉพาะ จึงทำให้โปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat สามารถตรงเข้ากำจัดไขมันสะสม ไขมันส่วนเกิน สลายเซลลูไลท์ ทำให้ไขมันแตกตัว พร้อมจัดระเบียบเซลล์ไขมันที่เคยอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มใหญ่ให้กระจายตัวในแบบที่ง่ายต่อการเผาผลาญ ส่งผลให้เกิดการลดไขมันโดยธรรมชาติ ลดไขมันที่สลายได้ยากให้ง่ายต่อการเผาผลาญออกจากร่างกายมากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยดูแลสภาพผิวในบริเวณที่ทำให้ดูกระชับขึ้น ทำให้รูปร่างโดยรวมดูตัวเล็กลง
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ให้ผลลัพธ์รูปร่างกระชับตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำโปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat
ด้วยการผสมผสานสองการทำงานของเครื่องนวดสลายไขมัน Circular Motion Massage และเซลลูไลท์ครีม ที่มีเนื้อครีมบางเบา ซึมซาบผ่านเข้าใต้ผิวหนังไปกระตุ้นการทำงานในชั้นใต้ผิวหนัง ขณะเดียวกันก็นวดตีสลายไขมันไปพร้อมๆ กัน ทำให้ไขมันเกิดการสลายตัวอย่างรวดเร็ว สลายไขมันส่วนที่เป็นพังผืดได้อย่างมีคุณภาพ พร้อมกับการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตในร่างกาย ช่วยลดไขมันขนาดใหญ่ให้กระจายตัวเล็กลง ไขมันที่เคยสะสมตามแขน ขา หน้าท้อง จึงเกิดการเผาผลาญได้ง่าย ปัญหาไขมัน ปัญหาเซลลูไลท์จึงถูกแก้ไขให้มลายหายไปพร้อมกับไขมันที่ถูกขับออกตามกระบวนการธรรมชาติของร่างกาย คงเหลือไว้ให้เพียงรูปร่างที่กระชับจนคุณมั่นใจ พร้อมกับน้ำหนักที่หายไปจากการลดไขมัน
3 ขั้นตอนการทำทรีทเม้นท์โปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat
ที่ Doctorlife ไม่ว่าคุณจะมีปัญหารูปแบบใดก็ตาม เราจะมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญช่วยทำการรักษา ดูแลแก้ปัญหาให้เสมอ ซึ่งการทำโปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat ก็เช่นกัน ทีมแพทย์จะจะเริ่มจากการตรวจวัดมวลร่างกาย เช็คมวลไขมันอย่างละเอียด วัดสัดส่วนอย่างละเอียด จากนั้นจะประเมินการรักษา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการลดไขมัน แก้ปัญหารูปร่างสัดส่วนคุณได้อย่างเหมาะสม และดีที่สุดสำหรับสุขภาพร่างกายคุณ อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์การลดไขมันด้วยโปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat นี้จะแตกต่างกันไปตามแต่ละคน แต่สามารถช่วยลดสัดส่วนได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำแน่นอน โดยขั้นตอนการโปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat จะมีดังต่อไปนี้
- ทำความสะอาดผิวก่อนเริ่มทำโปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat เพื่อให้เนื้อครีมซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราจะทำการคลีนผิวเบื้องต้นด้วยการสครับผิวในบริเวณที่จะทำการลดไขมันด้วยโปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat
- ลงครีมลดเซลลูไลท์สูตรเฉพาะของโปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat เนื้อครีมจะถูกชะโลมลงไปบนผิวในบริเวณที่ต้องการลดไขมันก่อนทำการนวดด้วยเครื่อง Circular Motion Massage ซึ่งเนื้อครีมนี้จะมีลักษณะบางเบาและไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เพราะเป็นส่วนผสมจากการสกัดธรรมชาติ
- ลดไขมันด้วยเครื่องนวดสลายไขมัน Circular Motion Massage ตัวเครื่องจะสั่นๆ เพื่อสามารถทำหน้าที่กระตุ้นให้ไขมันในบริเวณใต้ผิวที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ได้กระจายตัวออกจากกัน เป็นการลดขนาดไขมันให้ง่ายต่อการเผาผลาญมากขึ้น ซึ่งในขั้นตอนนี้จะผสมผสานประสิทธิภาพของครีมลดเซลลูไลท์ที่เข้าไปเร่งให้เกิดการเผาผลาญ ช่วยให้ร่างกายลดไขมันออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วขึ้น
เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ สัดส่วนลดลงชัดเจน
พิสูจน์ผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำโปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat ท้าให้ลองด้วยวัดสัดส่วนเปรียบเทียบก่อนทำและหลังทำได้เลย และนอกจากสัดส่วนที่ลดลง รูปร่างกระชับขึ้นแล้ว โปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat ยังช่วยในเรื่องการกระตุ้นการทำงานภายในชั้นผิว ช่วยลดอาการบวมน้ำ เห็นผลลัพธ์น้ำหนักที่ลดลงที่ได้ในทันทีเช่นกัน
4 เหตุผลที่หลายคนเลือกทำโปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat
ถึงแม้โปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat จะเหมาะอย่างยิ่งสำหรับบุคคลที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์ 5 กิโลกรัมขึ้นไป เพราะช่วยในเรื่องการลดไขมันโมเลกุลขนาดใหญ่ที่ลดได้ยากให้แตกตัวลดขนาดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่สำหรับบุคคลที่ต้องการลดไขมัน กระชับสัดส่วนที่มีความปลอดภัยสูง ไม่ต้องเอาร่างกายไปเสี่ยง และช่วยกระตุ้นการเผาผลาญเพิ่มเติมให้ร่างกายได้ การทำโปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat ก็สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้เช่นกัน ซึ่ง 4 เหตุผลที่คนส่วนใหญ่ตัดสินใจทำโปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat คือ
- โปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat ปลอดภัย ไม่ทำร้ายผิว โปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat ใช้วิธีการลดไขมันโมเลกุลใหญ่ให้มีขนาดเล็กลงได้ด้วย Circular Motion Massage ที่ทำการนวดแตกสลายไขมันโดยเฉพาะ ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บใดๆ ต่อผิว และไม่สร้างความเจ็บปวดใดๆ ขณะทำ นอกจากนี้เซลลูไลท์ครีมที่ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันยังสกัดมาจากธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายผิวใดๆ
- โปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat ให้ผลลัพธ์ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ เพียงครั้งแรกที่ทำโปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat คุณสามารถใช้สายวัด วัดสัดส่วนเปรียบเทียบได้เลยว่า หลังจากทำโปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat แล้ว สัดส่วนมีขนาดลดลงจริง และน้ำหนักตัวก็ลดลงเช่นกัน
- หลังทำโปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำโปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat เสร็จ คุณสามารถออกไปใช้ชีวิตตามปกติได้เลยทันที ไม่ต้องพักฟื้นทางร่างกาย และไม่มีรอยแผลใดๆ ให้ต้องระวังเป็นพิเศษ
- โปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat สามารถรักษาเฉพาะจุดที่ต้องการได้ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้มีปัญหาเรื่องนำหนักเกินเกณฑ์ แต่คุณมีปัญหาไขมันสะสมเฉพาะจุด โปรแกรมลดไขมัน Bye Bye Fat ก็สามารถตอบโจทย์ความต้องการลดไขมันของคุณได้ รวมถึงหากต้องการกระชับสัดส่วนก็ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน
